ใจใหม่
 

อาจารย์ ชลธิรา จินดาทจักร์ ( ครูงานศาสนกิจ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย )

พระวจนะ : ลูกา 19.1-8 “ พระเยซูกับศักเคียส ฝ่ายพระเยซูจึงเสด็จเข้าเมืองเยรีโคและกำลังจะทรงผ่านไป ดูเถิด มีชายคนหนึ่งชื่อ ศักเคียส เป็นนายด่านภาษีและเป็นคนมั่งมี ศักเคียสพยายามจะดูให้เห็นพระเยซูว่า พระองค์เป็นผู้ใดแต่ดูไม่เห็นเพราะคนแน่น ด้วยเขาเป็นคนเตี้ย เขาจึงวิ่งไปข้างหน้าขึ้นต้นมะเดื่อ เพื่อจะได้เห็นพระองค์ เพราะว่าพระองค์จะเสด็จไปทางนั้น เมื่อพระเยซูเสด็จมาถึงที่นั่น พระองค์ทรงแหงนพระพักตร์ดูศักเคียสแล้วตรัสแก่เขาว่า ศักเคียสเอ๋ย จงรีบลงมา เพราะว่าเราจะต้องพักอยู่ในตึกของท่านวันนี้ แล้วเขาก็รีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความปรีดี เมื่อคนทั้งหลายเห็นแล้วเขาก็พากันบ่นว่า พระองค์เข้าไปพักอยู่กับคนบาป ฝ่ายศักเคียสยืนทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ดูเถิด พระเจ้าข้า ทรัพย์สิ่งของของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยอมให้คนอนาถากึ่งหนึ่ง และถ้าข้าพระองค์ได้ฉ้อโกงของของผู้ใด ข้าพระองค์ทรงยอมคืนให้เขาสี่เท่า พระเยซูตรัสกับเขาว่า วันนี้ความรอดมาถึงครอบครัวนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นลูกของอับราฮัมด้วย เพราะว่าบุตรมนุษย์ได้มาเพื่อจะเที่ยวหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด ”
 
สิ่งใหม่ๆที่เราเห็นกันมีอยู่มากมาย เมื่อมีเงินก็สามารถซื้อเอาไว้ครอบครองได้ แต่ใจใหม่ หาซื้อไม่ได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อยู่ภายใน จะได้มาก็ต่อเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า เมืองเยรีโค เป็นเมืองที่มั่งคั่งและร่ำรวย มีการเก็บภาษี ศักเคียสก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีลูกน้องมากมาย ด้วยหน้าที่จิตใจของเขาจึงเปลี่ยนไป ด้วยความบกพร่อง เขาจึงได้นำเงินที่ได้เก็บเข้ากระเป๋าของตนเอง จนไม่มีใครชอบเขาเลย คนที่เคยรักก็เริ่มเหินห่างไป เพราะจิตใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไป แต่ ศักเคียสต้องการเห็นพระเยซูคริสต์ในเวลานั้น เมื่อเขาได้พบพระเยซูคริสต์ เขาได้มีโอกาสกลับไปมองในอดีตว่าเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง เราทุกคนจะได้ใจใหม่ก็ต่อเมื่อ

•  สำรวจ สำรวจตัวเอง เช่นเดียวกับศักเคียสที่สำรวจในข้อบกพร่องของตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ ใจและหัวใจไม่เหมือนกันเพราะใจเป็นส่วนที่รวมความรับรู้ความนึกคิด ส่วนหัวใจ เป็นอวัยวะที่อยู่ในร่างกาย สูบฉีดโลหิต ศักเคียสได้เห็นว่าคุณค่าของชีวิตของเขาตกต่ำขนาดนี้เชียวหรือ ? ทุกวันนี้เรามักจะเห็นความบกพร่องของคนอื่นมากกว่า พระเยซูทรงเป็นกระจกให้กับเราได้เป็นอย่างดี ในพระธรรมกะลาเทีย 6.4 ได้กล่าวว่า “ ทุกคนจงสำรวจการกระทำของตนเอง จึงจะมีอะไรๆที่จะอวดได้ในตัวไม่ใช่เปรียบกับผู้อื่น ”

•  แสวงหาผู้ช่วย จากพระธรรมลูกา 19.3-4 ศักเคียสได้พยายาม ( แสวงหาและมีความตั้งใจจริง ) จะไปดูพระเยซูให้ได้ แม้ว่าคนจะแน่นมากเพียงใด แต่เขาก็มีวิธีที่จะแก้ปัญหา โดยปีนต้นมะเดื่อเพื่อให้เห็นพระเยซู คนป่วยต้องการหมอ เมื่อวันใดที่เราท้อแท้ อ่อนเพลีย เราก็สามารถแสวงหาได้ พระเยซูทรงเสด็จไปที่บ้านของศักเคียส เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า เราจะไปพักที่บ้านของท่าน เมื่อเราแสวงหาเราก็จะพบ

•  สารภาพ ปรากฏอยู่ในข้อที่ 8 ศักเคียสได้พูดออกมาจากใจของเขาว่า จะยอมคืนเงินให้ 4 เท่า กฎของกรุงโรมมีว่า ใครที่โกงจะต้องยอมชดใช้ให้เป็น 4 เท่า นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในจิตใจของศักเคียส การสารภาพ และการสำนึกผิดต้องทำด้วยตนเอง เพราะในพระธรรม 1 ยอห์น 1.9 บอกกับเราว่า “ ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น ” เป็นพระคุณยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงให้แก่มนุษย์

•  สู่การปฏิบัติ และสู่สังคม ในข้อเดียวกัน ข้อ 8 ศักเคียสยอมคืนสิ่งที่เขาโกงมาให้กลับไป แสดงถึงพฤติกรรมที่นำไปสู่การปฏิบัติ เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจที่สำนึกและสารภาพ ความดีก็หลั่งไหลมา โดยยอมคืน 4 เท่า และให้แก่คนอนาถากึ่งหนึ่ง มนุษย์ยอมอะไรก็ยอมได้ แต่ยอมรับผิดไม่ได้ เป็นสิ่งที่ยาก เมื่อศักเคียสยอมรับ เขาก็สู่การปฏิบัติทำให้ชีวิตดีขึ้น ในพระธรรม กะลาเทีย 5.22-23 ได้พูดถึงแนวทางเมื่อเรามีชีวิตที่ดีเมื่อปฏิบัติ 9 อย่างนี้ ได้แก่ การแสดงความรัก ชื่นชมยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี นำสันติสุขสู่ผู้อื่น มีความอดทนและอดกลั้น ใจดี ความสุภาพอ่อนน้อม ความวางใจ รู้จักบังคับตน และความดี เมื่อพระเจ้าประทานให้จงกระทำเถิด พระเจ้าเปลี่ยนแปลงศักเคียสได้ เราเป็นบุตรของพระเจ้า ทำไมจะทำไม่ได้.