คำว่า บ้าน แปลว่า สิ่งปลูกสร้างสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย เราทุกคน มีบ้าน และในบ้านมีครอบครัวประกอบด้วยคุณพ่อคุณแม่ และลูก แต่บางบ้านมีคนในครอบครัวมากเท่านั้น อย่างไรก็ตามหัวหน้าครอบครัว ก็คือ คุณพ่อ และวันนี้ เป็น วันพ่อแห่งชาติ จึงขอเน้นเฉพาะคำว่า คุณพ่อ ซึ่งเป็นวันที่จะสร้างจิตสำนึกให้บุตรธิดา ได้แสดงความรัก ความกตัญญู ต่อผู้เป็นพ่อ มีกิจกรรม "วันพ่อ ทุกแห่งโดยเฉพาะ ในสถาบันการศึกษา
โดยปกติแล้วในครอบครัว จะมีเวลาที่คุณพ่อคุณแม่และลูก อยู่ร่วมกันรับประทานอาหารด้วยกัน เป็นเวลาของวันหยุด ก็จะมีเวลา อยู่ด้วยกันมากขึ้น หรือไม่ก็จะพาครอบครัวออกไปเที่ยว เพื่อผ่อนคลาย จากการตรากตรำทำงาน เป็นเวลาของครอบครัวจริงๆ
แต่ตัวแปรสำหรับในสังคมปัจจุบันก็คือ ครอบครัวมีเวลาอยู่ร่วมกันน้อยลง เพราะอาชีพการงานและหน้าที่ต่างๆ และสภาพไม่คล่องตัวของการออกไปทำงานและการกลับบ้านของชีวิตบนถนนด้วย
เวลาส่วนใหญ่ของคนในกรุงเทพฯ อยู่ที่ทำงานและยู่ในรถ บนท้องถนนที่การจราจรติดขัด ดังนั้นเวลาที่จะให้กับครอบครัวจึงลดลงเหลือเพียงน้อยนิด
คงได้ยินคำที่กล่าวว่า เวลาเป็นเงินเป็นทอง ( Time is Money ) เป็นการสื่อให้เห็นว่าทุกคนต้องทำงานจึงจะได้เงินมาใช้ จะได้มี เครื่องบริโภค อุปโภคในการดำรงชีวิต แต่บางคนหลงประเด็น เห็น เงิน สำคัญกว่า ชีวิต ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินทอง โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของคนและครอบครัว
มีเด็กชาวอเมริกันคนหนึ่ง เขาแปลกใจมากว่า ทำไมพ่อไม่มีเวลา ให้เขากับคุณแม่ของเขา พ่อออกจากบ้านไปทำงาน เขายังไม่ตื่นนอน ตอนเย็นกว่าพ่อจะกลับบ้าน เขาเข้านอนแล้ว เวลาที่จะอยู่กับแม่ และอยู่กับลูกแทบจะไม่มี ถ้าถามพ่อก็จะบอกว่า พ่อต้องไปทำงานหาเงินมาให้แม่และลูกใช้จ่ายอย่างไรล่ะ เด็กคนนี้เป็นคนช่างถาม เมื่อสบโอกาสเขาถามพ่อว่า พ่อหาเงินได้วันละเท่าไร ? พ่อก็ตอบลูกไปตามจริง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ลูกชายเริ่มอดออมค่าขนม และเงินพิเศษ และสะสมไว้เป็นเวลานานกว่าจะได้เงินส่วนที่พ่อบอกไว้
เช้าวันหนึ่ง เขาตื่นแต่เช้า และยื่นถุงเงินที่อดออมมาเป็นเวลานาน ให้พ่อพร้อมกับบอกว่า คุณพ่อครับ เงินจำนวนนี้เท่ากับค่าแรงงานที่พ่อทำในหนึ่งวัน คุณพ่อได้รับ ผมขอซื้อเวลาของคุณพ่อหนึ่งวัน เพื่อคุณพ่อจะได้อยู่กับผมและคุณแม่ เราจะกินข้าวด้วยกัน และไปเที่ยวด้วยกัน
คุณพ่อได้ยินดังนั้นถึงกับอึ้ง และพูดไม่ออก เขากอดลูกและร้องไห้ คำกล่าวที่ว่า เวลาเป็นเงินเป็นทอง ( Time is Money ) แต่ก็มีคำกล่าว อีกว่า ถ้าท่านได้ของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องสูญเสียชีวิตจะได้ประโยชน์อะไร นี่คือคำสอนของพระเยซูคริสต์
สิ่งแรกนี้เกิดขึ้นกับเราในบ้านชั่วคราว ซึ่งมีความจำกัดหลายอย่าง เราจะต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กันและกัน เพราะวันคืนของชีวิตไม่คอยใคร และจะไม่กลับมาอีก เรามีคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง วันหนึ่ง ก็จะต้องจากโลกนี้ไป การใช้เวลาและให้เวลาแก่กันและกัน จึงสำคัญ กว่าสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ทุกสิ่งมีเวลาของมันเอง เพราะเป็นสิ่งชั่วคราว
แต่ขอบพระคุณพระเจ้า ที่พระองค์ทรงให้ความหวังใหม่แก่เรา ด้วยการเตรียมบ้านถาวร ให้ เพื่อทุกคนที่เชื่อจะได้ลิ้มรส
ในพระคัมภีร์ตรัสสอนว่า พระเจ้าเป็นเหมือนบิดา หรือ คุณพ่อ พระองค์สอนผู้เป็นพ่อว่า
จงนำเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะ ไม่ พรากจากทางนั้น (สุภาษิต 22 : 6) และสอนผู้เป็นลูกว่า จงฟังบิดา มารดาของเจ้า ผู้ให้กำเนิดเจ้า และอย่าดูหมิ่นมารดาของเจ้า เมื่อนางแก่ (สุภาษิต 23 : 22 )
เพราะเป็นบัญญัติของพระบิดดาเจ้า ที่ตั้งเป็นกฏไว้ เพื่ออายุของเจ้า จะได้ยืนนานบนแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า
พระคัมภีร์ตรัสสอนว่า คำว่าบิดา ของทุกตระกูล ทุกชาติในสวรรค์ ก็ดี ที่แผ่นดินโลกนี้ก็ดี มาจากคำว่าพระบิดา (เอเฟซัส 3 : 15 )
ในโลกนี้นอกจาก คุณพ่อหรือบิดา ของเราแล้ว ยังมีพระเจ้า ทรงเป็นพระบิดาของทุกคนในโลกนี้ที่เชื่อและวางใจในพระองค์
พระองค์ทรงอยู่กับเราตลอดเวลา และทรงอวยพระพรแก่ลูกของพระองค์เสมอ ใครก็ตามที่อยู่ในทางของพระองค์ พระองค์จะทรง อวยพระพรให้เห็นคุณค่าของชีวิตและเวลาในการอยู่ร่วมกัน
ดังนั้น วันพ่อแห่งชาติ ขอให้เราคิดถึงคุณพ่อ รักคุณพ่อ ในเวลาเดียวกันก็จะแสดงให้คนรู้ว่า เรารักคุณพ่อด้วยการกระทำ ไม่ใช่รักด้วยวาจาเท่านั้น
อาเมน...
|