อยู่ในศีลธรรมอันดี

 


( เทศนาเนื่องในวันไหว้ครูระดับมัธยมศึกษา พฤหัสบดี ที่ 29 มิถุนายน 2549)

อ . วิศรุต จินดารัตน

ศาสตราจารย์ นพ . ประเวศ วะสี กล่าวว่า หลังจากอายุหกขวบผ่านไปแล้วพฤติกรรมของเด็กจะเปลี่ยนแปลงไปไม่มากนัก ท่านให้เหตุผลว่าในสมองของมนุษย์มีเซลล์ (cell) อยู่ประมาณแสนล้านเซลล์ ( ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าประชากรทั้งโลกรวมกัน ) ในช่วงอายุไม่เกินหกขวบจะเป็นเวลาที่วงจรของระบบประสาทได้จัดรูปขึ้นมาเป็น Transmission circuit ( วงจรที่ส่งต่อไปยังที่อื่น ) เหมือนกับการสร้างร่องทางเดินของน้ำ ครั้งแรกที่น้ำตกลงบนพื้นดินและไหลไปในทิศทางใดก็จะเกิดร่องน้ำและเมื่อมีน้ำตกซ้ำอีกมันก็จะไหลไปตามรอยเดิมซึ่งเป็นทางเดินเดิมของมัน
 

สิ่งนี้คือ Transmission circuit เป็นวงจรที่ซ้ำรอยเดิมโดยอัตโนมัติ กล่าวคือเมื่อได้รับการกระตุ้น (stimulate) สมองของคนก็จะตอบสนอง (response) ไปตาม program ที่ได้รับการวางไว้แล้ว คือจะเดินตามร่องรอยเดิมที่ได้กำหนดไว้ เช่นเดียวกับ computer จนกว่าจะมีการลบ (delete) ร่องรอยเดิม หรือเอา Transmission circuit เดิมๆออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย

คำว่า “ ศีลธรรม ” มีความหมายว่า ความประพฤติที่ดีที่ชอบ คนที่ “ อยู่ในศีลธรรมอันดี ” ร่องรอยในสมองของเขาก็จะเป็น Transmission circuit ที่ได้รับการฝังรากลึกด้วยคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงาม เมื่อมีสิ่งกระตุ้นมากระทบพฤติกรรมที่สนองตอบจึงออกมาในรูปของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Character) และก็จะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ( เป็นเครื่องหมายของความดี เป็นลักษณะประจำของบุคคล )

ท่านอัครทูตเปาโลได้กล่าวไว้ในพระธรรมฟิลิปปี 4:8-9 “ ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ขอจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ทรงคุณ สิ่งที่ดี สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ ทุกสิ่งที่ท่าได้เรียนรู้มานี้ จงนำไปปฏิบัติ และพระเป็นเจ้าจะทรงประทานสันติสุขให้ดำรงอยู่กับท่านเสมอไป ”

พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าในตอนนี้จึงมีความหมายว่า สิ่งที่จริง (true) สิ่งที่น่านับถือ (noble) สิ่งที่ยุติธรรม (just) สิ่งที่บริสุทธิ์ (pure) สิ่งที่น่ารัก (lovely) สิ่งที่ทรงคุณ (admirable) สิ่งที่ดีเยี่ยม (excellent) สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ (praiseworthy) บรรดาสิ่งต่างๆดังกล่าวมานี้ล้วนเป็นคุณธรรม เป็นศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งควรแก่การนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ( Put them into practice what you learned and received from me)

สิ่งที่สะสมไว้จึงเป็นร่องรอยที่ได้รับการปลูกฝังไว้มักปรากฏออกมาในรูปของการกระทำและคำพูด ดังนั้นเราจึงต้องเก็บรักษาและ program แต่สิ่งที่ดีไว้ โดยดำเนินชีวิต “ อยู่ในศีลธรรมอันดี ” ซึ่งสำแดงผลปรากฏที่ชัดเจนสองประการ ดังนี้

ประการแรก : ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมอันดีเป็น ผู้ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีสง่าราศีและความร่มเย็นเป็นสุข

 

พระธรรมโรม 2:10 “ แต่พระเจ้าจะทรงประทานศักดิ์ศรี เกียรติยศ และสันติสุขแก่บรรดาผู้ที่

ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ” (But God will give glory, honor, and

peace to all who do what is good…)

 

ศักดิ์ศรี เกียรติยศ และสันติสุข จะได้มาก็ด้วยการประพฤติ ปฏิบัติตนอยู่ในทำนองคลองธรรม เช่นเดียวกับพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงดำเนินชีวิตโดย ทศพิธราชธรรมจรรยา ใช้ธรรมะเป็นหลักในการครองตนและปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งปวง หกสิบปีแห่งการครองสิริราชสมบัติจึงได้รับการถวายสดุดีจากคนทั้งปวงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งนี้ก็เพราะพระองค์ท่านดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมอันดีนั่นเอง

 

ประการที่สอง : ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมอันดี เป็นผู้ที่มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เพราะการกระทำของเขาจะตั้งมั่นบนพื้นฐานของธรรมะ ไม่ว่าเขาจะประกอบกิจการใด ย่อมเป็นไปเพื่อสร้างคุณประโยชน์อย่างมากมาย เป็นคุณูปการ (contribution) แก่สังคม

 

พระธรรมอิสยาห์ 32:8 “ แต่คนดีก็จะกระทำแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่น่าเคารพยกย่อง เขาจะดำรงชีวิตบน

พื้นฐาน ( ของสิ่งที่น่านับถือ ) ของธรรมะ ” (But the noble man makes

noble plans, and by noble deeds he stands) ( แต่คนที่มีคุณธรรมสูง

จะกระทำในสิ่งที่น่ายกย่องนับถือ และจะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง )

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้วางแบบอย่างการดำเนินชีวิตแก่เราด้วยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรม ทั้งนี้เพื่อให้ชาวไทยได้รับประโยชน์สุข (benefits and happiness) กว่าสามพันโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาความยากจนของราษฎร ล้วนเป็นประโยชน์และส่งผลต่อการกินดีอยู่ดีของคนไทย เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก นายโคฟี อันนัน (Mr. Kofi Annan) เลขาธิการสหประชาชาติทูลเกล้าฯถวายรางวัล “ ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ” แด่พระองค์ท่าน นี่คือแบบอย่างของผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมอันดี เป็นผู้สร้างคุณูปการแก่มหาชนชาวไทย

 

การไหว้ครูเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของไทยที่นิยมกระทำมาแต่โบราณ เป็นการที่ศิษย์แสดงความกตเวทีต่อครูด้วยความเคารพคารวะ ยอมรับนับถือครูอย่างจริงใจว่า ท่านเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยความรู้และคุณธรรม ศิษย์ในฐานะผู้สืบทอดมรดกทางวิชาการจึงต้องดำรงตน “ อยู่ในศีลธรรมอันดี ” ซึ่งจะส่งผลให้เป็นผู้ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นผู้ที่มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดประทานความรู้ ความเข้าใจแก่บรรดาศิษย์วัฒนาทุกคนที่มาไหว้ครูด้วยความเคารพ ให้สมองและจิตใจของทุกคนมี Transmission circuit แห่งศีลธรรมอันดีงาม เพื่อจะได้ program เอาสิ่งที่ดีไว้ ให้เป็นผู้ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นผู้สร้างคุณูปการ ที่เป็นประโยชน์ต่อชาติและประเทศไทยตลอดไป

อาเมน