ทุกคนย่อมเคยกลัวหรือ
มีความรู้สึกกลัวอยู่ในใจ ซึ่งเป็นการแสดงว่าเรายังปกติอยู่
ความกลัวเป็นสิ่งที่ Mark Twain บอกว่าเราต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะอย่างคนที่มีความกล้าหาญ
ความกล้าหาญเป็นคุณลักษณะอันสำคัญยิ่งของผู้ที่มีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า
เป็นความเชื่อมั่นที่จะทำลายกำแพงของความหวาดกลัว แล้วลงมือกระทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยพึ่งพาการทรงนำจากพระองค์
ให้ก้าวไปเพื่อเอาชนะอุปสรรค ปัญหา และความกลัวที่คอยหลอกหลอน
จิตใจของเรา
พระธรรมฟิลิปปี
4: 13 " ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้โดยองค์พระเยซูคริสตเจ้าผู้เสริมกำลังข้าพเจ้า
"
นี่คือ ความมั่นใจ เป็นความกล้าหาญที่จะเอาชนะความกลัว
เป็นนายของความกลัวโดยมีองค์พระผู้เป็นเจ้าเสริมกำลังให้แก่เรา
ดังนั้นเราจึงมีความกล้าหาญพร้อมรับมือกับความกลัวที่เข้ามาในชีวิตของเราในรูปแบบต่าง
ๆ โดยจะยกตัวอย่างสามประการดังนี้
ประการแรก : ความกล้าเผชิญปัญหาที่ดูเหมือนหมดหนทางแก้ไข
อาจมีบางครั้งในชีวิตที่ต้องพบกับความทุกข์แสนสาหัส
ไม่สามารถระบายกับใครได้ มืดมน ไม่มีทางออก ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครมีแต่ความทุกข์และความกลัวรุมเร้า
ในภาวะเช่นนี้เราจะมีใจกล้าพร้อมต่อสู้เอาชนะปัญหาที่ไร้หนทางแก้ไขได้อย่างไร
พระธรรมอิสยาห์
41:10 กล่าวว่า " อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้าอย่าขยาดเพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า
"
เป็นคำยืนยันอย่างหนักแน่นมั่นคงจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
พระองค์จะสถิตอยู่ด้วยกับเราเสมอในทุกเวลา ทุกเหตุการณ์
แม้ในยามวิกฤตของชีวิตที่ดูเหมือนหมดหนทางแก้ไข พระเจ้าจะทรงประทานกำลังใจ
ความมั่นใจแก่เราให้มีใจกล้าพร้อมเผชิญกับสิ่งที่ดูเหมือนหมดหนทางแก้ไข
เพราะความกล้าหาญที่แท้จริงนั้นมาจากพระองค์
ประการที่สอง
: ความกล้าเผชิญการเปลี่ยนแปลง
เรามักมีความกลัวในสิ่งที่เราไม่แน่ใจ
ไม่มีความแน่นอน กลัวในสิ่งที่เราไม่เคยชิน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่สั่นคลอนสถานภาพความเป็นอยู่ของเรา
บางคนอาจเคยรู้สึกกลัวการอยู่หอพักร่วมกับผู้อื่น เพราะความเคยชินอยู่กับครอบครัวที่มีแต่คนรู้ใจและเข้าใจเรา
เมื่อต้องจากบ้านมาอยู่โรงเรียนก็อาจมีความไม่มั่นใจในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
เราจะมีใจกล้าพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้อย่างไร
พระธรรมปฐมกาล
46:3-4 "พระเจ้าจึงตรัสแก่ยาโคบว่า เราคือพระเจ้า
คือพระเจ้าของบิดาของเจ้า อย่ากลัวที่จะไปอียิปต์
เราจะไปกับเจ้า
"
ยาโคบต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนของตน
และออกเดินทางไปอียิปต์ ไปยังดินแดนที่เขาไม่คุ้นเคย ต้องจากสังคม
จากญาติพี่น้องของตน ไปยังแผ่นดินที่เขาต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง
เหมือนมิชชั่นนารีชาวอเมริกันผู้บุกเบิกการศึกษาไทยผู้ก่อตั้งโรงเรียนของเราที่ต้องจากครอบครัวของตนเดินทางมาสยามประเทศ
ท่านทั้งหลายเหล่านั้นต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านการเมือง
เศรษฐกิจ และสังคมต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ที่แตกต่างจากความเคยชิน
แต่ทุกคนล้วนมีความกล้าเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง เพราะมีความเชื่อมั่นในพระสัญญาของพระเจ้าว่าจะอยู่ด้วยเสมอ
ประการสุดท้าย : ความกล้ายอมรับในความผิดพลาดของตน
ทุกคนล้วนเคยบกพร่อง
เคยผิดพลาดในชีวิต อาจเนื่องมาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
หรือด้วยความไร้เดียงสา ไม่รอบคอบจึงทำลงไปโดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะตามมา
หลายคนถลำลึกลงไปสู่อบายมุข หมดอนาคต โดยไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
พระธรรมลูกา
15:11-24 เป็นคำอุปมาขององค์พระเยซูคริสตเจ้าที่ตรัสสอนเรื่องของบุตรสอนคน
กล่าวคือ คนเล็กได้ขอแบ่งสมบัติของบิดา และเดินทางไปเมืองไกล
ที่นั่นเขาได้ผลาญทรัพย์สมบัติที่ได้รับมาจนสิ้น ต้องตกระกำลำบาก
ได้รับความทุกข์แสนสาหัสจากการกระทำของตน จากความผิดพลาดของตนเอง
จากชีวิตที่มีความครัวอบอุ่น มีสถานภาพเป็นบุตร เวลานี้ต้องรับจ้างเลี้ยงหมูอยู่กินกับหมูที่ทุ่งนา
ได้รับความอับอาย แต่เมื่อเขาสำนึกได้ว่าการกระทำของเขานั้นผิดพลาดอย่างร้ายแรงเขาสารภาพต่อพระเจ้า
เขาจึงมีใจกล้า และยอมรับในความผิดพลาดของตนเอง เดินทางกลับบ้านเพื่อขอการอภัยโทษจากคุณพ่อ
ความกล้าหาญเป็นคุณธรรมของผู้ที่มีความพยายามเอาชนะความกลัว
เป็นการยืนหยัดในสิ่งที่ตนเองเชื่อ ไม่ยอมให้ความกลัวมาขัดขวางความมุ่งมั่นของตน
ความมีใจกล้านั้นย่อมกระทำแต่สิ่งที่ถูกต้องแม้ในภาวะวิกฤต
ไม่สยบยอมต่อแรงกดดันใดๆเป็นผู้ที่กล้าสร้างความแตกต่าง(dare
to be different) และมีความกล้าเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลง(change
agent) เพราะพระเจ้าทรงสัญญาแก่เราทุกคนในพระธรรมโยซูวาห์
1:9 " เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือว่า จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย เพราะว่าเจ้าไปถิ่นฐานใดพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า
"
จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
อาเมน...
|