ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
หมายถึง การให้ความร่วมมือกันในการทำงานร่วมกัน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ร่วมในพันธบริการด้วยกัน หลอมรวมกำลังใจ กำลังกาย กำลังปัญญา
เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดพลังร่วม , พลังคูณ (synergy) โดยผลที่ได้จากการกระทำร่วมกันนั้นจะมีค่ามากยิ่งกว่าต่างคนต่างทำ
ก่อให้เกิดศักยภาพและทำให้สังคมเข้มแข็ง และมีเอกภาพ
เอกภาพที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
พระธรรมโรม 12:4-5 "เพราะว่าในร่างกายเดียวกัน
เรามีอวัยวะหลายอย่าง และอวัยวะนั้นๆ มิได้ทำหน้าที่เหมือนกันฉันใด
พวกเราผู้เป็นหลายคนยังเป็นกายอันเดียวในพระคริสต์ และเป็นอวัยวะแก่กันและกันฉันนั้น
"
ท่านเปาโลผู้เขียนพระธรรมโรมได้นำเอาเอกภาพของร่างกายซึ่งมีอวัยวะหลายอย่างที่ทำหน้าที่ต่างกันมาเปรียบเทียบให้เราเข้าใจถึงการทำงาน
การอยู่ร่วมกันด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แม้เราจะทำหน้าที่ต่างกันบางคนเป็นผู้สอน
บางคนเป็นผู้สนับสนุน บางคนวางแผน บางคนปฏิบัติตามแผนที่วางไว้
เหมือนร่างกายที่ประกอบด้วย มือ เท้า หู ตา สมอง ถึงกระนั้นทุกส่วนก็ต้องทำงานอย่างสอดประสานกัน
มีความเชื่อมโยงกัน มีความเป็นองค์รวม จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้
ต้องร่วมมือ (cooperate) ประกอบเป็นร่างกายเดียวกัน (a
single , unified body) มีความเป็นหนึ่ง ( Oneness )
ความสำคัญของการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
พระธรรมสดุดี
133:1 "ดูเถิดซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกัน
มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้นก็น่าชื่นใจยิ่งนัก
"
กษัตริย์ดาวิดได้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ในหมู่พี่น้องที่อาศัยอยู่ด้วยกันนั้นว่ามีค่ามากที่สุด
เป็นความชื่นชมยินดี มีสมานฉันท์
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องมีความเห็นเหมือนกันในทุกเรื่อง
พระประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างมนุษย์มานั้นให้แต่ละคนมีของประทาน
มีความสามารถที่หลากหลาย มีทักษะที่แตกต่างกันไปเหมือนกับโน้ตเพลงที่ต้องมีระดับเสียง
(pitch) สูงต่ำต่างกันไป แต่เมื่อบรรเลงออกมาแล้วย่อมสอดประสานเป็น
Chord และทำนองที่มีความไพเราะเพราะพริ้ง เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันซึ่งแต่ละคนย่อมต้องมีข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้การทำงานของเรานั้นกลมกลืน
สอดประสาน (work in harmony) อันสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาววัฒนา
คำว่า " harmony " ในภาษาดนตรีหมายถึงศิลปะในการบรรเลงเสียงโน้ตที่ต่างกันให้รวมกันเป็นกลุ่มโน้ต
หรือ Chord
พระธรรม
1 โครินธ์ 1:10 "พี่น้องทั้งหลาย
ข้าพเจ้าวิงวอนท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
ขอให้ท่านปรองดองกัน อย่าถือพรรคถือพวก แต่ขอให้ท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
"
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความมีเอกภาพจะเกิดขึ้นในครอบครัววัฒนาได้
ด้วยปัจจัยสามประการดังนี้
1.
ด้วยใจถ่อมและใจอ่อนสุภาพ : (with lowliness and gentleness)
พระธรรมเอเฟซัส
4:2-3 "จงมีใจถ่อมลงทุกอย่างอละใจอ่อนสุภาพ
อดทนนาน อดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก"
คำว่า
"ความนอบน้อมถ่อมตน" (lowliness) เป็นคำที่ไม่มีปรากฎในภาษาโรมันหรือภาษากรีกในสมัยนั้น
สันนิษฐานว่าเป็นคำที่พวกคริสเตียน หรือท่านเปาโลเองได้เป็นผู้คิดคำนี้ขึ้นมา
เพื่ออธิบายคุณลักษณะของการมีใจถ่อมสุภาพที่ไม่มีคำใดมาเทียบเคียงความหมายได้
อีกทั้งคำว่า "อดทนนาน" (longsuffering) ซึ่งมีความหมายว่า
มีความเป็นผู้ใหญ่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ด้วยความสุภาพ
และคำว่า "อดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก"
(bearing with one another in love) นั้นย่อมต้องอาศัยความถ่อมสุภาพ
ความอดทนที่เรามีต่อผู้ร่วมงานของเราอย่างสม่ำเสมอและไม่มีข้อแม้
เพื่อให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเราต้องยอมให้องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้นำ
โดยที่เราเองต้องเต็มใจทำตาม เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นเพราะใจที่ถ่อมและอ่อนสุภาพนั้นเป็นรากฐานทางคุณธรรมของชาววัฒนาทุกคน
พระธรรมยากอบ
4:6 "พระเจ้าทรงต่อสู้กับผู้ที่หยิ่งจองหอง
แต่ทรงประทานพระคุณแก่ผู้ที่มีใจถ่อม"
ความถ่อมใจและความสุภาพย่อมจะขจัดความขัดแย้งและก่อให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มีความเป็นเอกภาพร่วมกันในบ้านหลังนี้
2.
ด้วยความรักและการให้อภัย : ( with love and forgiving
)
พระธรรมโคโลสี
3:13-14 "จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกันและถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกัน
ก็จงยกโทษให้กันและกัน
แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
เพราะความรักย่อมผูกพันทุกสิ่งไว้ให้ถึงซึ่งความสมบูรณ์
"
แม้เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากยิ่ง
แต่การยกโทษให้ผู้อื่นนั้นเราต้องระลึกเสมอว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ยกโทษแก่เรามาแล้วฉันใด
เราต้องกระทำอย่างนั้นแก่เพื่อนบ้านของเรา
เพราะพระองค์ทรงวางแบบอย่างแก่เราแล้ว โดยทรงยกบาปทั้งสิ้นของเรา
ดังนั้นเราต้องเต็มใจยกโทษแก่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน จึงจะทำให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในบ้านวัฒนาแห่งนี้
3.
ด้วยการรับเอาแบบอย่างขององค์พระเยซูคริสต์ : (with the
example of Christ)
พระธรรมโรม
15:5 " ขอพระเจ้าผู้ประทานความอดทนและกำลังใจทรงโปรดให้ท่านมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันตามแบบอย่างขององค์พระเยซูคริสต์
"
เพื่อให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทุกคนในครอบครัววัฒนาต้องรับเอาแบบอย่างขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าผู้ทรงเป็นแบบอย่างของความถ่อมสุภาพ
ความอดทนอดกลั้น มีใจเมตตาต่อกัน มีความรักและให้อภัย
พระธรรมโรม
5:4 "ความอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้
"
ในฐานะครูผู้รับผิดชอบต่อการสร้างศิษย์ให้เป็นผู้ที่มีคุณธรรมนำวิชาการซึ่งเป็นพันธกิจหลักที่ได้รับมอบหมาย
เราเองจึงต้องเป็นแบบอย่างแก่ศิษย์และคนในสังคมจะได้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มี "Spirit of unity " ทั้งนี้เพื่อสร้างสังคมวัฒนาวิทยาลัยของเราให้เป็น
สังคมที่มีความผาสุขอย่างยั่งยืน โดยยึดพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพื้นฐานและให้พระองค์เป็นศูนย์กลางในชีวิตของเรา
(Bible based ,Christ centered ) ดังคำกำชับของท่านเปาโล
พระธรรม
2ทิโมธี 2:24 "ในฐานะที่เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า
ท่านทั้งหลายต้องไม่ทะเลาะกัน แต่มีใจเมตตาต่อกันและกัน
เป็นครูที่ดีมีความอดทน "
ขอแสดงความยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่สู่บ้านวัฒนาหลังนี้ให้เราอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกัน
อย่างคนที่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ( To live and
to work in harmony )
อาเมน...
|