ความซื่อสัตย์สำคัญอย่างไร
พระธรรมสดุดี 24 : 3-5 ผู้ใดจะขึ้นไปบนภูเขาของพระเจ้าและผู้ใดจะยืนอยู่ในวิสุทธิสถานของ พระองค์ คือผู้ที่มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์ ผู้ที่มิได้ปลงใจในสิ่งเท็จและ มิได้สาบานอย่างหลอกลวง เขาจะรับพระพรจากพระเจ้า... พระเจ้าทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ ในพระองค์นั้นมีแต่ความจริง และความรักมั่นคง บรรดาผู้ที่มีความซื่อสัตย์ คือ ผู้ที่มีมือสะอาด ไม่กระทำการฉ้อฉล หลอกลวง ก็จะได้รับพระพรจากพระองค์
ความซื่อสัตย์จึงมีนัยสำคัญ 3 ประการดังนี้
ประการแรก : พระเจ้าทรงพอพระทัยในความซื่อสัตย์ ( Lord delights in honesty )
พระธรรมสุภาษิต 11 : 1 .....พระเจ้าทรงพอพระทัยผู้ที่มีความซื่อสัตย์ ไม่คดโกง ( ..... Lord delights in honesty )
การกระทำใด ๆ ก็ตามต้องสอดคล้องกับพระบัญญัติของพระเจ้า คือ เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ ปราศจากการหลอกลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบกิจการค้าขาย ต้องทำอย่างโปร่งใส พระเจ้าทรงพอพระทัยในการใช้ตาชั่งที่ถูกต้อง ( Honest weight is his delight )
พระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ 25 : 15 ท่านทั่งหลายจงใช้เครื่องชั่ง วัดตวงที่เที่ยงตรง น้ำพระทัยของพระเจ้าชัดเจนมากในเรื่องความซื่อสัตย์ อีกทั้งจะทรงอวยพรแก่ทุกคนที่ประพฤติปฏิบัติตาม พระธรรมสุภาษิต 11 : 3 ความซื่อสัตย์จะนำทางชีวิตของคนดี ส่วนคนที่ไม่ซื่อสัตย์ก็จะถูกทำลาย ด้วยความคดโกงที่เขาทำ ความไม่ซื่อสัตย์ และความหลอกลวงทำให้มนุษย์ตกเป็นทาสของมัน แต่ความซื่อสัตย์คือ เสรีภาพที่จะนำเราไปสู่การอภัยโทษบาปจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ประการที่สอง : พระเจ้าทรงประสงค์ให้กระทำความยุติธรรม ( Lord demands fairness )
พระธรรมสุภาษิต 16 :11 ตาชั่งเที่ยงตรงเป็นของพระเจ้า เครื่องชั่ง วัด ตวง มีมาตรฐานเดียวกัน และการค้าขายที่มีความซื่อสัตย์ ( The Lord demands fairness in every business deal ; he wants weights and measures to be honest ) ความซื่อสัตย์และความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ ต้องมีการกระทำควบคู่กันไปด้วย งค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกร้องให้เราทุกคนทำตามมาตรฐานที่ได้ทรงวางแบบอย่างไว้แล้วและคาดหวังในตัวเราทุกคนให้ดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ ( God sets the standard and expects it )
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดให้เราทำทุกสิ่งด้วยความซื่อสัตย์ หากเป็นการค้าขายก็ให้ใช้เครื่องชั่ง วัด ตวงที่มีมาตรฐาน ไม่โกงตาชั่ง ไม่โกงน้ำหนัก เป็น honest weights = just weight ที่ไม่ลำเอียง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น พระเป็นเจ้าจึงบัญชาให้กระทำการค้าขายด้วยความซื่อสัตย์ ( Commercial honesty is a divine command ) น้ำหนักและการวัดที่เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์เท่านั้นจึงจะได้รับการประทับตรารับรองจากพระเจ้า ( Honest scales and balances are from the Lord ) การกระทำใดๆที่ไม่ยุติธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์จะอยู่ตรงข้ามกับพระองค์
พระธรรมเอเสเคียล 45 :10 เจ้าจงมีตาชั่งที่เที่ยงตรง
ประการสุดท้าย : พระเจ้าทรงเกลียดชังการกระทำที่มีสองมาตรฐาน
( Lord despises double standards )
พระธรรมสุภาษิต 20:10 พระเจ้าทรงเกลียดชังผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ เขาใช้เครื่องชั่งที่โกงน้ำหนักและ
เครื่องวัดที่ไม่เที่ยงตรง ( The Lord hates people who use dishonest weights and measure) คำว่า สองมาตรฐาน ( double standards ) คือการกระทำที่ไม่ยุติธรรม ลำเอียง เลือกปฏิบัติต่อแต่ละกลุ่มแต่ละบุคคลที่แม้อยู่ภายใต้กฎ กติกาเดียวกัน ไม่เหมือนกัน เข้าข้างบางคน การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงเกลียดชัง ( God detests dishonesty ) ทรงตรัสอย่างชัดเจนใน
พระธรรมมีคาห์ 6 :11 เราจะยกโทษแก่ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ คือบรรดาผู้ที่โกงตาชั่งและเครื่องวัดได้หรือ เป็นคำเตือนคนที่กระทำธุรกิจด้วยกลโกง หลอกลวง เพราะตาชั่งและลูกตุ้มที่บิดเบือนก็จะถูกใช้เพื่อเอารัดเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอกว่า ( A false balance is used to cheat the poor ) ซึ่งพระเป็นเจ้าทรงเกลียดชังการกระทำเช่นนี้ยิ่งนัก
ดังนั้นเราทุกคนในฐานะที่เป็นบุตรของพระเจ้าจึงต้องกระทำในสิ่งที่เป็นสองมาตรฐานให้เป็นมาตรฐานเดียวที่มีความซื่อสัตย์ ( double standards to fair standards ) และตาชั่งที่คดโกงเป็นตาชั่งที่มีความเที่ยงตรง ( false balance to honest balance ) เพราะมาตรฐานก็คือสิงที่ถือเป็นเกณฑ์สำหรับความซื่อสัตย์ที่ต้องประพฤติปฏิบัติ
ชาววัฒนาทุกคนพึงระลึกเสมอว่า พระเจ้าทรงพอพระทัยในความซื่อสัตย์ ( Lord delights in honesty ) พระองค์ทรงประสงค์ให้เรากระทำความยุติธรรม ( Lord demands fairness ) และพระเจ้าทรงเกลียดชังการกระทำที่มีสองมาตรฐาน ( Lord despises double standards ) พระสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีแก่บรรดาผู้ที่มีความซื่อสัตย์ปรากฏใน
พระธรรมลูกา 16 : 10 คนที่สัตย์ซื่อในของเล็กน้อยจะสัตย์ซื่อในของมากด้วย และคนที่ไม่สัตย์ซื่อ ในของเล็กน้อยก็จะไม่สัตย์ซื่อในของมากด้วย
หมายความว่าผู้ที่มีความซื่อสัตย์ก็จะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพันธกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเป็นรางวัลต่อตนเองและวงศ์ตระกูล ( Honest people are given more responsibility )
ความซื่อสัตย์ ( Honesty ) มีความจริงใจ เป็นคนที่ไว้วางใจได้ ไม่คดโกง หลอกลวงทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตรงไปตรงมา ไม่เอาเปรียบผู้อื่น พูดความจริงเสมอ ถือเป็นค่านิยมหลัก ( core values ) ที่ชาววัฒนายึดถือและประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลากว่า 130 ปี เราได้รับการปลูกฝังผ่านทางชีวิตของครูผู้สอน การเผยพระวจนะธรรม และทางบทเพลงที่เป็นดังคำปฏิญาณว่า
ฉันจะสัตย์ซื่อ เพราะคนเชื่อถือไว้ใจฉัน