พระธรรมสดุดี 33:3 จงร้องเพลงบทใหม่ถวายพระองค์ จงดีดสายอย่างแคล่วคล่อง พร้อมกับโห่ร้อง ผู้เขียนพระธรรมสดุดีได้เรียกร้องให้ถวายพระเกียรติแด่พระเป็นเจ้าด้วยการ ร้องเพลง โดยเฉพาะเพลงบทใหม่ ความรู้สึกใหม่ แรงบันดาลใจใหม่ ด้วยสำนึก ในพระคุณของพระเจ้า ดังนั้น ทั้งการร้อง การบรรเลงดนตรี และบทเพลง จึงต้องเป็น บทเพลงที่มาจากชีวิต จิตวิญญาณ และความจริงใจของเราทุกคน
หนังสือเพลงไทยนมัสการที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยใช้เป็นบทเพลงสรรเสริญพระเป็นเจ้านั้น มีบทเพลงที่มาจากชีวิตของผู้ประพันธ์หลากหลายสาขาอาชีพ
เขาเหล่านั้นได้รับการดลใจ แรงบันดาลใจจากพระเจ้าให้เขียนบทเพลงที่ยืนยัน ความเชื่อ ความไว้วางใจในพระเจ้า พระคริสตธรรมคัมภีร์ได้บันทึกเรื่องราวของผู้ประพันธ์บทเพลงต่างๆไว้มากมาย โดยจะขอยกมากล่าวถึงเพียง 3 คน ดังนี้
บทเพลงแรก .
บทเพลงที่มาจากชีวิตคนเลี้ยงแกะ : เป็นบทเพลงแห่งการดูแล เอาใจใส่ ห่วงใย จากชีวิตของ ดาวิด บุตรชายเจสซีชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง มีอาชีพเลี้ยงแกะ อาศัยอยู่ที่เมืองเล็กๆใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม เพราะเป็นน้องคนสุดท้องของครอบครัว
ดาวิดจึงไม่ได้รับการพาไปปรากฏตัวต่อ สาธารณชนมากนัก ชีวิตในวัยเด็กของเขาจึงเติบโตขึ้นมาจากทุ่งนาที่ซึ่งเขาได้ฝึกฝนการเป็นผู้เลี้ยงและการปกป้อง ดูแล เอาใจใส่ ฝูงแกะของบิดา แม้อยู่ฐานะที่ต่ำต้อยถึงเพียงนี้ กระนั้นชีวิตของดาวิดก็เป็นที่ พอพระทัยพระเป็นเจ้ายิ่ง พระองค์ได้ทรงอุ้มชูเขาขึ้นมาจากการเป็นผู้เลี้ยงแกะ สู่การเป็นผู้นำประชากรของพระองค์ ดาวิดจึงถูกเลือกและได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์โดยองค์พระเป็นเจ้า ดาวิดเป็นผู้มีทักษะในการพูด การเขียน และการเล่นดนตรี ดังปรากฏใน
พระธรรม 1 ซามูเอล 16:18 บุตรคนหนึ่งของเจสซีชาวเบธเลเฮมเป็นผู้มีฝีมือในการดีดพิณ เป็นคนกล้าหาญ เป็นนักรบ พูดเก่ง และเป็นคนหน้าตาดี และพระเจ้าทรงสถิตกับเขา ด้วยอัจฉริยภาพที่หลากหลายทั้งในการเป็นนักดนตรี นักกวีผู้มีความสามารถประพันธ์บทเพลงสดุดีที่ไพเราะเพราะพริ้ง จนคนทุกยุคทุกสมัยอ่านแล้วเกิดความซาบซึ้งและยอมรับว่าเป็น ผลงานชิ้นเอกของวรรณกรรมด้านจิตวิญญาณ
(the masterpiece of spiritual literature) โดยไม่มีบทประพันธ์อื่นใดที่ได้รับ การกล่าวถึงอย่างสม่ำเสมอมั่นคงติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคนเท่ากับบทเพลงสดุดีเลย
ในความเป็นนักดนตรี ดาวิดมีฝีมือเลื่องลือในการดีดพิณอย่างหาผู้ใดเสมอเหมือนไม่ เสียงเพลงที่บรรเลงจากปลายนิ้วของเขาเป็นดังยาวิเศษที่ช่วยขจัดความทุกข์ทรมานอันเกิดจากความซึมเศร้า ที่ผลักดันให้กษัตริย์ซาอูลต้องอยู่ในสภาพคนบ้า
เสียสติที่พยายามทำร้ายดาวิด แต่เมื่อพระองค์ได้ฟังเสียงเพลงที่บรรเลงจากชีวิตของผู้เลี้ยงแกะคนนี้ อาการของพระองค์ก็จะเป็นปกติ
พระธรรม 1 ซามูเอล 16:23 อยู่มาเมื่อวิญญาณชั่วจากพระเจ้ามาสิงซาอูลเมื่อไร ดาวิดก็หยิบพิณใช้มือดีดถวาย ซาอูลก็ทรงชุ่มชื่นขึ้นและหายดี และวิญญาณชั่วก็พรากจากพระองค์ไป
เสียงเพลงที่ดาวิดบรรเลงจึงเป็นดนตรีบำบัด (music therapy) ที่รักษาทั้งร่างกายและจิตใจกษัตริย์ซาอูล โดยพระวิญญาณของพระเป็นเจ้าได้ทำงานผ่านทางบทเพลงที่มาจากชีวิตของคนเลี้ยงแกะเช่นดาวิด อันเป็นบทเพลงแห่งการดูแล ห่วงใย และเอาใจใส่
บทเพลงที่สอง
บทเพลงที่มาจากชีวิตอัครทูต : เป็นบทเพลงแห่งความเชื่อความศรัทธา จากชีวิตของท่านเปาโลผู้ที่ถูกส่งออกไปเพื่อพันธกิจการประกาศข่าวประเสริฐ ของพระเจ้า ตามที่ปรากฏใน พระธรรมกิจการของอัครทูต 21:39 กล่าวว่า เกิดที่เมืองทาร์ซัส แคว้นซีลีเซีย บิดาถือสัญชาติโรมัน ดังนั้นท่านจึงเป็นชาวยิวที่ได้รับสัญชาติโรมันโดยกำเนิด และ พระธรรมกิจการของอัครทูต 22:3 กล่าวว่าเป็นผู้มีการศึกษาสูง เพราะเป็นศิษย์ของอาจารย์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักปรัชญา ผู้ยิ่งใหญ่และเยี่ยมยอดในยุคนั้น คือท่านกามาลิเอล ( Gamaliel ) ท่านเปาโลได้รับอิทธิพลด้านการศึกษาจากกรีก โดยเห็นได้จากความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์อย่างชัดเจนและเป็นระบบ ขณะเดียวกันก็ได้รับอิทธิพลจากฮีบรู ที่ช่วยสร้างอุปนิสัยของการประพฤติปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างเคร่งครัด ( ฟิลิปปี 3:6) ชีวิตของอัครทูตผู้มีความมุ่งมั่นในการประกาศข่าวประเสริฐขององค์
พระเยซูคริสตเจ้า ท่านเปาโลได้ปลูกสร้างคริสตจักรไว้ในแผ่นดินชนต่างชาติหลายแห่ง โดยไม่ยอมแพ้ต่อกำแพงทางเชื้อชาติและภาษา ท่านได้นำชีวิตและคำสั่งสอนขององค์พระเยซูคริสต์เป็นกรอบความคิดทาง ศาสนศาสตร์ที่ถูกต้อง และนำสู่การปฏิบัติในชีวิตจริงของคริสเตียน ในการประพันธ์ ท่านเปาโลนับเป็นสุดยอดของนักเขียนผู้มีทักษะ ( a most gifted writer ) พระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ จำนวน 27 เล่ม เป็นผลงานการเขียนของท่านถึง 14 เล่ม หากเรานับรวมทั้งพระธรรมฮีบรูเข้าไปด้วย บทเพลงที่ร้องออกมาจากชีวิตของผู้รับใช้พระเจ้าแม้ในยามที่ต้องถูกพันธนาการนั้น มีพลังอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยฤทธิ์อำนาจที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระธรรมกิจการของอัครทูต 16:25 -26 ประมาณเที่ยงคืน เปาโลกับสิลาสก็อธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นักโทษทั้งหลายในคุกก็ฟังอยู่ ในทันใดนั้นเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ จนรากคุกสะเทือนสะท้านและประตูคุกก็เปิดหมดทุกบาน เครื่องจำจองก็หลุดจากเขาสิ้นทุกคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคุกเมืองฟิลิปปีคืนนั้น จึงนับเป็น ครั้งแรกที่คอนเสิร์ตการร้องเพลงนมัสการได้เกิดขึ้นในยุโรป ( the first sacred concert ever held in Europe ) เสียงเพลงที่ท่านเปาโลและสิลาสได้ร่วมกันร้อง นำความรอดมาสู่ นายคุกและครอบครัวของเขา พระเป็นเจ้าได้ทรงทำงานผ่านทางบทเพลงที่มาจากชีวิตของอัครทูตผู้ประกาศข่าวประเสริฐขององค์พระเยซูคริสต์ นี่คือบทเพลงแห่งความ เชื่อศรัทธา
บทเพลงที่สาม
บทเพลงที่มาจากชีวิตพระผู้ช่วยให้รอด : เป็นบทเพลงแห่งการตัดสินใจที่แน่วแน่ จากชีวิตขององค์พระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นเชื้อสายของดาวิด สืบตระกูลมาจากอับราฮัม ( ลูกา 1:1) แม้พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้าแต่ก็ทรงยอม ถ่อมพระองค์ลงเพื่อรับสภาพบุตรมนุษย์ ทรงกระทำพันธกิจแห่งการช่วยกู้มนุษย์ ให้พ้นจากความบาปผิดเพื่อรับชีวิตนิรันดร์ในพระองค์ สัปดาห์สุดท้ายของการทำพันธกิจในกรุงเยรูซาเล็มนั้น เป็นความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส พระคริสตธรรมคัมภีร์ได้บันทึกช่วงชีวิตนี้ของพระองค์ไว้ อย่างค่อนข้างละเอียด
พระธรรมมัทธิว 16:21 -23 ได้กล่าวถึงการที่พระองค์จะต้องเสด็จไป
ยังกรุงเยรูซาเล็ม และจะต้องรับการทนทุกข์ทรมานหลายประการจนถึงประหารชีวิต และแม้แต่เปโตรได้พยายามทัดทานไว้ แต่ด้วยความมุ่งมั่นกระทำตามพระทัยพระบิดาผู้ทรงใช้พระองค์มาเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ( ยอห์น 4:34 ) ด้วยน้ำพระทัยที่ แน่วแน่ กล้าหาญ พระธรรมมัทธิว 26:30 ได้บันทึกไว้ว่า เมื่อร้องเพลงสรรเสริญแล้ว เขาก็พากันออกไปยังภูเขามะกอกเทศ นี่คือการเริ่มต้นเดินทางเข้าสู่หลักประหาร นับเป็นสุดยอดของบทเพลงทั้งปวง
บทเพลงที่มาจากชีวิตของคนเลี้ยงแกะที่คอยปกป้องดูแลฝูงสัตว์ของเขา ในท่ามกลางอันตรายจากสิงโตและหมาป่า หรือบทเพลงที่มาจากชีวิตของอัครทูต ที่ถูกจองจำพันธนาการด้วยโซ่ตรวน หรือบทเพลงที่มาจากชีวิตของพระผู้ช่วยให้รอดที่กำลังเดินทางเข้าสู่หลักประหาร ล้วนเป็นบทเพลงที่เต็มไปด้วยพลังความกล้าหาญ เป็นบทเพลงแห่งชัยชนะ ไม่ใช่บทเพลงแห่งความท้อถอย แต่เป็นบทเพลงที่ถูกกลั่นกรองมาจากชีวิตจริงของผู้ที่มีพระเจ้าเป็นพระผู้ช่วยให้รอด บทเพลงเหล่านี้จึงเป็นสิ่งยืนยันความเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
พระธรรมสดุดี 104:33 ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระเป็นเจ้าของข้าพระองค์ตราบนานเท่านาน ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์นานเท่าที่ข้าพระองค์ จะมีชีวิตอยู่ นี่คือคำสัญญา ของผู้เขียนพระธรรมสดุดีและของเราทุกคนด้วย โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการร้องเพลงสรรเสริญพระเป็นเจ้า สภาคริสตจักรในประเทศไทยพร้อมด้วยภาคต่างๆ และคริสตจักรทุกแห่ง ได้กำหนดให้กรกฎาคมเป็นเดือนเพลง เราจึงมีการศึกษาความเป็นมาของบทเพลง ประวัติผู้ประพันธ์ แรงบันดาลใจ สัจธรรมขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่อยู่ในบทเพลง อีกทั้งคำพยานชีวิตที่ผ่านมาทางเพลงนมัสการนั้นๆ อันเป็นการเสริมสร้างความเจริญเติบโต แก่จิตวิญญาณเหล่าประชากรของพระเป็นเจ้าทุกคน เราจึงขอบพระคุณพระองค์ ที่เราทุกคนมีอวัยวะครบบริบูรณ์ สามารถฟัง เห็น เข้าใจและเปล่งเสียงสรรเสริญ พระเจ้าได้ ทำให้ วัฒนาวิทยาลัยของเราเป็นโรงเรียนที่มีชีวิตชีวา ( Singing school ) มีความรัก ความอบอุ่น ด้วยดนตรีและเสียงเพลง อีกทั้ง ได้ยกระดับจิตใจของเราทุกคนให้มีสุนทรียภาพ รับรู้ได้ถึงความงดงามแห่งศิลปะ ที่พระเจ้าทรงประทานแก่เราทุกคน ขอให้บทเพลงที่มาจาก ชีวิตของผู้เลี้ยงที่ดี อีกทั้งบทเพลงที่มาจาก ชีวิต ของผู้ประกาศข่าวประเสริฐ และบทเพลงที่มาจาก ชีวิตของพระผู้ช่วยให้รอด เป็นบทเพลงที่ร้องออกมาจาก ชีวิตของเราทุกคนตราบที่ยังมีลมหายใจ
อาเมน |